Loading
คนยุคใหม่หันมาใส่ใจกับการรักษ์โลกรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น เห็นได้จากความสนใจ และยอดขายของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับการมีจุดชาร์จไฟทั่วประเทศ โดยหลักๆแล้วคุณสามารถชาร์จรถได้ 3 วิธีได้แก่ ที่บ้าน หรือสถานีชาร์จสาธารณะ ข้อดีของการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าก็ คือช่วยลดมลพิษ และที่สำคัญคือลดการใช้เชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดีประหยัดเงินในกระเป๋าได้เยอะด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าควรชาร์ทรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างไร
ป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในเพราะการชาร์จรถที่บ้านคือวิธีเตรียมพร้อมก่อนออกเดินทางและจะทำให้คุณมั่นใจว่ารถยนต์จะไปถึงที่หมายด้วยพลังงานที่เพียงพอ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไปหาที่ชาร์จที่ไหน แต่ก็ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ และอาจใช้เวลายาวนานถึง 24 ชั่วโมงในการชาร์จจนเต็ม หากมีการติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้านที่เป็นเครื่องชาร์จรถยนต์โดยเฉพาะ จะมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยในตัวเพื่อปกป้องคุณบ้าน และรถของคุณ
การชาร์จที่บ้านจะวัดเป็นกิโลวัตต์ โดยเครื่องชาร์จเฉพาะมีความเร็ว 3.7kW ซึ่งจะให้ระยะทาง 15-30 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่สำหรับรถยนต์ EV ที่มี 60kWh ทั่วไปที่มีเครื่องชาร์จ 7kW ที่จะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงในการชาร์จจากแบตเปล่าไปจนเต็ม แต่สำหรับรถขนาดเล็กกว่า 30kWh การชาร์จควรใช้เวลาเพียงประมาณ 6 ชั่วโมงเท่านั้น
ไม่จำเป็นต้องชาร์จทุกวัน แต่จะขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ เพราะการชาร์จทุกวันไม่ใช่เรื่องดี ก็เหมือนกับการชาร์จโทรศัพท์มือถือดังนั้นหากเป็นไปได้ควรวางแผนการเดินทางทุกครั้ง เพื่อเป็นการรักษารถยนต์ไปในตัว และประหยัดค่าชาร์จไฟบ้าน
ถึงแม้ว่าการชาร์จ EV ให้เต็มตั้งแต่ที่บ้านเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่อาจมีบางครั้งที่ต้องใช้บริการจุดชาร์จสาธารณะ อย่างที่บอกว่าถึงแม้จะมีไม่มากนัก แต่ก็สามารถไปชาร์จที่สุดจ่ายไฟได้ตามนี้
หรือแม้กระทั่ง 7-Eleven สาขาบ้านสวนลาซาล (ศรีนครินทร์) และ 7-Eleven สาขา สน.บางขุนนนท์ ก็สามารถชาร์จไฟรถได้
สาระสำคัญ
อย่างที่คุณเห็น สถานีชาร์จแบบเร็วทำให้การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเร็วขึ้นมาก แต่ไม่แนะนำให้ใช้แท่นชาร์จเหล่านี้เป็นประจำเนื่องจากการชาร์จอย่างรวดเร็วจะทำให้แบตเตอรี่หมด หรือเสื่อมเร็วขึ้น
การชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขึ้นอยู่กับคำแนะนำของรถยนต์แต่ละรุ่นว่าควรปฏิบัติแบบไหน ซึ่งก็จะเป็นคำแนะนำจากศูนย์รถยนต์ของยี่ห้อนั้น ๆ ผู้ขับขี่ก็จะได้ใช้งานอย่างถูกวิธี และชาร์จไฟได้อย่างถูกต้อง ข้อดีคือในยุคปัจจุบันสถานีชาร์จไฟเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อรองรับกับการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นซึ่งก็จะทำให้คนหันมาสนใจซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าใช้กันเยอะขึ้น เห็นแบบนี้ก็อุ่นใจได้เลยไม่ต้องกลัวว่าพังงานจะหมดกลางทางแล้วหาที่เติมไม่ได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณที่มาความรู้จาก : mottoraka