Loading
กฎหมายจราจรใหม่ โทษหนัก ค่าปรับเป็นแสน
คนที่ใช้รถใช้ถนนย่อมรู้ดีแก่ใจว่าวิธีหนึ่งที่ช่วยลดอุบัติเหตุรถชนได้คือการปฏิบัติตามกฎหมายจราจร แต่ขึ้นชื่อว่ากฎย่อมมีคนไม่ทำตามด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น ขับรถฝ่าไฟแดงเพราะรีบ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเพราะคิดว่าจุดหมายไม่ไกล ฯลฯ ความมักง่ายเหล่านี้ทำให้เกิดเหตุรถชนเป็นประจำ ทั้งขับรถชนท้าย ขับรถชนคนบาดเจ็บ หรือขับรถชนเสาไฟฟ้า แต่คุณรู้ไหมว่าตอนนี้มีกฎหมายจราจรฉบับใหม่ประกาศใช้งานแล้ว เพิ่มทั้งค่าปรับเพิ่มทั้งโทษที่ต้องรับผิดชอบซึ่งมากกว่ากฎหมายจราจรฉบับเดิมหลายเท่าเลยด้วย!
ถ้าโชคดีคงเจอแค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อยพร้อมรับใบสั่งจราจรแต่ถ้าโชคร้ายอาจมีการสูญเสียที่มากกว่า เช่น ขับรถชนคนเสียชีวิต เพื่อสร้างความเคยชินให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจร จึงมีการประกาศใช้กฎหมายจราจรฉบับใหม่ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 โดยมีรายละเอียด
อุบัติเหตุทุกรูปแบบเกิดขึ้นจากการไม่ใส่ใจในกฎหมายจราจร เมื่อคุณฝ่าฝืนยังไงก็ต้องเกิดผลเสียอยู่แล้ว เช่น ขับรถเร็วมากเหยียบเบรคไม่ทันจนขับรถชนเสาไฟฟ้า อยากลักไก่รีบไปให้ถึงที่หมายเลยขับรถย้อนศร หรือรถล้มเองเพราะไม่มองทาง ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้มีโทษและค่าปรับตามกฎหมาย คือ
ประเทศไทยรณรงค์ “เมาไม่ขับ” อยู่ทุกปี ยิ่งช่วงไหนที่เป็นหน้าเทศกาลยิ่งจะถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะการเมาแล้วขับที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าปริมาณที่กฎหมายกำหนด (เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) พรากชีวิตของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องมานักต่อนัก เรียกได้ว่า คนเมารอด คนไม่เมาตาย ซึ่งกฎหมายเมาแล้วขับฉบับใหม่ มีค่าปรับและโทษคือ
เข็มขัดนิรภัยถูกออกแบบมาไว้ลดอาการบาดเจ็บหรือช่วยชีวิตจากอุบัติเหตุ เพราะถูกคาดผ่านส่วนที่แข็งแรงที่สุดของร่างกายคือสะโพกและหัวไหล่ เมื่อคุณขับรถด้วยการคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วเจออุบัติเหตุรถชน เข็มขัดนิรภัยจะช่วยให้คุณไม่กระเด็นออกนอกตัวรถ กระจายแรงกระแทกจากอุบัติเหตุ เช่น หัวหรือร่างกายอาจเหวี่ยงไปกระแทกกับพวงมาลัยหรือคอนโซลหน้ารถได้ หากคุณไม่คาดเข็มขัดนิรภัยมีค่าปรับและโทษ คือ
หากฝ่าฝืนไม่คาดเข็มขัดนิรภัยมีโทษปรับ 2,000 บาทตามกฎหมายจราจรใหม่
การรวมกลุ่มกันแข่งขันขับรถมอเตอร์ไซค์ในทางสาธารณะเป็นปัญหาที่ยังไม่เลือนหายไปจากสังคมไทย เห็นได้เป็นประจำบนถนนทางหลวง ซึ่งกลุ่มสิงห์นักบิดสร้างมลพิษทางเสียงให้กับประชาชนในละแวกสนามแข่งรถที่เป็นถนนทางหลวงอย่างมาก จึงมีค่าปรับและโทษตามกฎหมายจราจรฉบับใหม่ คือ
การใช้มือถือขณะขับรถเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนบ่อย เนื่องจากคนขับรถไม่สามารถแยกสมาธิระหว่างการขับรถและการใช้มือถือได้เลยตัดสินใจผิดพลาดเพราะทำหลายอย่างพร้อมกัน เช่น เหยียบเบรครถไม่ทันเลยขับรถชนท้ายคันอื่นเพราะสมาธิจดจ่อกับการแชต เป็นต้น แต่กฎหมายจราจรใหม่ไม่ได้ห้ามใช้มือถือ ถ้าจะใช้มือถือขณะขับรถจริงๆ ควรใช้วิธีต่อไปนี้
หากผู้ขับขี่ฝ่าฝืนใช้มือจับหรือถือมือถือขณะขับรถ หรือไม่ปฏิบัติตามแนวทางตามที่กฎหมายจราจรฉบับใหม่ระบุเอาไว้มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท
ขอบคุณที่มา : tidlor