A V P

Loading





30 วิธีดูแลรถให้มีอายุการใช้งานยืนยาวนานขึ้น


รถดี ๆ ที่เราใช้เวลาเก็บเงินตั้งนานกว่าจะซื้อมาเนี่ย บางคนรักยิ่งกว่าแฟนซะอีกนะ ดังนั้นถ้าเกิดใช้ได้ไม่นานก็พัง คงน่าเสียดายแย่เลยใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นก่อนที่รถของคุณจะเสียทั้ง ๆ ที่ยังใช้ได้ไม่เท่าไหร่ ก็ลองมาดูแลรถด้วยวิธีเหล่านี้กันดูเถอะ

1. ในช่วงรันอิน ขณะที่ขับรถไปได้ 1,600 กิโลเมตรแรก จำกัดความเร็วให้อยู่ต่ำกว่า 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเอาไว้ หรือความเร็วตามที่แนะนำสำหรับรถแต่ละรุ่น
2. หลีกเลี่ยงสิ่งของกระทบถูกรถ เพราะแม้แต่ลูกบอลพลาสติกเบา ๆ กระทบก็ทำให้เกิดรอยขนแมวได้
3. อย่าเร่งเครื่องเวลาสตาร์ททันที โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศข้างนอกหนาวเย็น ทางที่ดีควรเร่งความเร็วหลังผ่านไปประมาณสัก 10 - 20 นาที
4. พยายามไม่ขับรถเร็วจนเกินไป โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนหรือเย็นจัด
5. หลีกเลี่ยงการหยุดรถกะทันหันที่จะทำให้ล้อสึกอย่างรวดเร็ว
6. เวลาหมุนพวงมาลัย ไม่ควรหักไปทิศทางใดจนสุด
7. หากรถติดอยู่ในพวกหลุมโคลนขนาดใหญ่จนเอาขึ้นมาลำบาก ควรเรียกช่างมาช่วยยกแทนที่จะพยายามเร่งเครื่องให้หลุดออกมา
8. การพ่วงของอื่น ๆ ไว้กับกุญแจรถด้วย จะทำให้กุญแจรถหนักขึ้น บวกกับเวลาที่ขับ แรงสั่นสะเทือนก็จะยิ่งทำให้ช่องที่เสียบกุญแจรถรับภาระหนักขึ้นอีก จนชิ้นส่วน       ภายในสึกหรอได้ เพราะฉะนั้นเลือกเอาเครื่องประดับเล็ก ๆ ชิ้นเบา ๆ มาใช้ก็พอแล้ว
9. หมั่นสังเกตหรือถ้าจะให้ดีก็ควรจดเอาไว้ด้วยว่าวัน ๆ น้ำมันของคุณหมดไปเท่าไหร่ และวันนี้ขับไปเป็นระยะทางเท่าไหร่ ถ้าน้ำมันหดหายจนผิดสังเกต จะได้ตามช่างมาดู     สิ่งผิดปกติได้ทัน
10. อย่าทิ้งรถไว้เฉย ๆ นานเกินไป เพราะการหล่อลื่นภายในจะแห้งทุกครั้งที่สตาร์ทเครื่องยนต์สึกกร่อนง่ายกว่า และแบตเตอรี่รถก็เสื่อมง่ายเพราะขาดการชาร์จแต่ประจุ       คลายออกจนหมดเกลี้ยง
11. หากจอดรถไว้นาน ใช้ขาตั้งยกรถเป็นตัวค้ำเวลาจอด เพราะยางรถยนต์จะถูกกดในจุดเดียวทำให้ยางเสียทรง ต้องเปลี่ยนใหม่
12. จอดรถในที่ร่ม เพื่อไม่ให้รถร้อน หรือจะเลือกใช้รถเป็นสีที่คายความร้อนเช่นสีสว่างเป็นมันเงาดูก็ได้
13. ทำความสะอาดแผงหน้าปัดด้วยผ้าชุบน้ำพอหมาด และหมั่นดูดฝุ่นในรถเสมอ
14. เคลือบเบาะหนังเพื่อให้รถดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ
15. แก้ปัญหาไฟท้ายมีร่องรอยด้วยการเอาเทปซึ่งขายในร้านอุปกรณ์สำหรับรถมาติด ก่อนที่น้ำจากฝนจะรั่วซึมเข้ามาติดอยู่ภายใน
16. ต่อให้เป็นรถที่ทนทานขนาดไหนก็ไม่ควรบรรทุกของหนักเกินไป ไม่ว่าจะเป็นที่ท้ายรถหรือมัดไว้บนหลังคาก็ตาม ซึ่งโดยทั่วไปแล้วควรจุไม่เกิน 90 กิโลกรัม
17. มองหาผ้ามาคลุมรถทุกครั้งตอนที่เก็บในโรงรถเพื่อรักษาสีให้ดูใหม่นาน ๆ
18. สำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้รถบรรทุกของไปด้วย ควรใช้ผ้าหนา ๆ ปูสักชั้นก่อนใส่ของลงไปด้วย จะได้ไม่ขูดขีดโดนรถจนเป็นรอย
19. เคลือบแว็กซ์อีกชั้นเพื่อถนอมสีรถให้ติดทนนานยิ่งขึ้น รวมทั้งกันรอยขูดขีดด้วย
20. ตอนที่เติมลมยางรถ ลองสังเกตดูสิว่ามีความชื้นออกมาจากตัวปั๊มลมด้วยรึเปล่า ถ้ามีก็หยุดซะ เพราะหากมีความชื้นเข้าไปฝังตัวด้านในจะทำให้ล้อเสียหายได้
21. ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกนั้นค่อนข้างไม่ถูกกับความชื้นเป็นพิเศษ มันจึงควรถูกเช็ดทำความสะอาดให้แห้ง และควนตรวจเช็คอย่างน้อยทุก ๆ 3 ปี
22. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อย ๆ คราบตกตะกอนจะได้ไม่ฝังอยู่ภายใน
23. คุณต้องทำความสะอาดฝาถังน้ำมันบางเช่นกัน เพราะมีความเสี่ยงที่สิ่งสกปรกจะหลุดเข้าถังน้ำมันเวลาเติมเชื้องเพลิง
24. ตรวจเช็คแบตเตอรี่เป็นประจำ ถ้ามีรอยแตกร้าวควรเปลี่ยนทันที และควรทำความสะอาดด้วย
25. เปลี่ยนหัวเทียนเมื่อคุณขับรถไปได้ 48,000 - 64,000 กิโลเมตร
26. ใช้น้ำสะอาดเติมลงหม้อน้ำรถยนต์เท่านั้น เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกเข้าไปสะสม โดยผสมน้ำยาหล่อเย็นและน้ำเปล่าในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง
27. ปูผ้าขนหนูไว้บนเบาะก่อนเอาที่นั่งเด็กมาวางทับ เพื่อกันรอยขีดข่วน
28. กระปุกเก็บน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ต้องมีน้ำมันอยู่ในระดับพอดี และฝาปิดสนิทก่อนสตาร์ทเครื่องด้วย ไม่อย่างนั้นหากเจอความร้อนหลังเครื่องทำงานเข้าไปอาจยิ่ง      เพิ่มความดันจนทำให้น้ำมันล้นออกมาได้
29. ควรเปลี่ยนสายพานราวลิ้นตามระยะเวลาที่แนะนำในคู่มือ
30. ถอดก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาเช็ดทำความสะอาดบ้าง

นอกจากที่แนะนำมานี้ ก็ควรเอารถไปตรวจเช็คที่ศูนย์เป็นประจำด้วยนะครับ หากเกิดสิ่งผิดปกติอะไรขึ้นมา จะได้ให้มืออาชีพช่วยแก้ไขได้ทันยังไงล่ะ

 

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://car.kapook.com/