ข้อควรระวังจากการใช้น้ำหอมติดรถยนต์
ข้อควรระวังจากการใช้น้ำหอมติดรถยนต์ เป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถไม่ควรมองข้าม แม้น้ำหอมจะช่วยเพิ่มความหอมสดชื่นในห้องโดยสาร แต่หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทั้งสุขภาพ ผู้โดยสาร และตัวรถเองได้ ดังนี้ :
1. หลีกเลี่ยงการวางน้ำหอมไว้ในจุดที่โดนแสงแดดโดยตรง
น้ำหอมรถยนต์หลายชนิดมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือสารไวไฟ หากวางไว้ใกล้กระจกหน้า หรือบริเวณแดชบอร์ดที่ร้อนจัด อาจทำให้ขวดน้ำหอมระเบิด หรือเกิดการรั่วไหล จนทำลายพื้นผิวภายในรถได้
2. ระวังสารเคมีที่อาจทำลายแผงคอนโซลหรือเบาะหนัง
น้ำหอมบางชนิดอาจมีสารเคมีที่กัดกร่อนหรือทำปฏิกิริยากับวัสดุภายในรถ เช่น แผงหน้าปัด พลาสติก หรือหนัง ทำให้เกิดรอยด่าง เหลือง หรือเหนียว ควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้สารน้ำหอมสัมผัสโดยตรงกับพื้นผิว
3. หลีกเลี่ยงกลิ่นที่แรงเกินไป โดยเฉพาะในรถปิด
กลิ่นน้ำหอมที่แรงมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ปิดอย่างรถยนต์ อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการเวียนหัว คลื่นไส้ หรือแพ้กลิ่น โดยเฉพาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ เด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุ
4. ระวังการรั่วซึมของน้ำหอมแบบแขวนหรือแบบติดช่องแอร์
น้ำหอมแบบแขวนหรือแบบหนีบช่องแอร์มีโอกาสรั่วซึมลงมาบนพื้นผิวภายในรถ หากเป็นสารเข้มข้นอาจทำให้แอร์เสียหายหรือเกิดรอยคราบบนแดชบอร์ด
5. ตรวจสอบส่วนผสมและแหล่งผลิต
ควรเลือกใช้น้ำหอมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เลือกสูตรที่ปลอดภัย ไม่มีสารฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) หรือพาราเบน (Paraben) ซึ่งอาจก่อมะเร็งหรือกระตุ้นภูมิแพ้ได้ในระยะยาว
6. ไม่ควรใช้หลายกลิ่นผสมกัน
การใช้หลายกลิ่นในรถยนต์พร้อมกันอาจทำให้กลิ่นตีกันจนเกิดกลิ่นฉุนที่รบกวนสมาธิในการขับรถ และก่อให้เกิดอาการไม่สบายในผู้โดยสารบางราย
