A V P

Loading





น้ำมันเครื่องและของเหลว ที่ต้องหมั่นเปลี่ยนในรถ มีอะไรบ้าง ?


น้ำมันเครื่อง เป็นส่วนสำคัญมาก ๆ สำหรับรถ ซึ่งน้ำมันเครื่องก็มีหลายประเภท อาทิ น้ำมันเครื่องธรรมดา น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์

 

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ซึ่งความต่างของมันก็จะส่งผลทำให้รอบเปลี่ยนตั้งแต่ทุก ๆ 5,000 กิโลเมตร หรือ 10,000 กิโลเมตร


        ซึ่งน้ำมันเครื่องธรรมดาจะมีอายุการใช้งานที่ต่ำเพราะว่ายางน้ำมันเครื่องจะมีความสามารถในการรับอุณหภูมิได้ต่ำกว่ากลุ่มน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ต่าง ๆ สิ่งที่เราต้องเช็กมีสองส่วนครับ ส่วนแรกก็คือดึงจากก้านเช็กน้ำมันเครื่องขึ้นมาดูว่า น้ำมันเครื่องขาดรึเปล่า ส่วนอีกอย่างคือ น้ำมันเครื่องเราเหนียวข้นดำแล้วหรือยัง ซึ่งถ้ามีปัญหาสองอย่างนี้ก็ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่โดยเร็วที่สุด

 

- น้ำมันพาวเวอร์ หรือจะให้เข้าใจง่าย ๆ คือ น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ ซึ่งน้ำมันพาวเวอร์ส่วนนี้จะมีหน้าที่ในการหล่อลื่นของส่วนพวงมาลัยในการหักเลี้ยวได้ง่ายครับ เมื่อสมัยก่อนรถบ้านเราไม่มีพวงมาลัยพาวเวอร์ครับ ก็จะหนักมากเวลาจะเลี้ยวทีพอมีระบบนี้ ก็ทำให้การขับขี่ง่ายขึ้นเยอะ เราควรเปลี่ยนทุก ๆ 80,000 กิโลเมตร หรือ ทุก ๆ ปี

 

- น้ำมันเบรก อันนี้ชื่อตรงตัวอยู่แล้วครับว่าเกี่ยวกับระบบเบรกซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญกับเรื่องความปลอดภัยครับ ถ้าน้ำมันเบรกหมดอาจส่งผลทำให้ระบบเบรกไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งรอบเช็กควรเช็กทุก ๆ 40,000 กิโลเมตรครับ โดยเราสามารถเช็กที่หน้าฝากระโปรงได้ครับ ว่าขุ่นแล้วหรือยัง แต่ถ้าลดไปเยอะให้เพื่อน ๆ สงสัยว่ารั่วหรือไม่ 

 

- น้ำมันเกียร์ เป็นชิ้นส่วนใหญ่ ๆ อีกชิ้นหนึ่งของส่วนกลางรถ เกียร์เป็นระบบที่ใช้งานบ่อยไม่แพ้เครื่องเลยครับ เพราะฉะนั้นหากเบรกไม่มีน้ำมันหล่อลื่นได้ดีอาจทำให้เพื่อน ๆ เสียตังค์ชุดใหญ่แน่นอนครับ โดยควรเช็กทุก ๆ 20,000-30,000 กิโลเมตร

 

- น้ำมันคลัตช์ จะมีในรถที่ใช้เกียร์ธรรมดาอยู่ครับ จะมีหน้าที่ตอนที่เปลี่ยนเกียร์ครับ ก็ควรเปลี่ยนน้ำมันทุกๆ ปี

 

- น้ำหม้อน้ำ และ น้ำหล่อเย็น ส่วนสำคัญสุดครับ หากน้ำหม้อน้ำหมดเตรียมจอดรถ รอให้เครื่องหายร้อนได้เลยครับ ควรเช็กทุกอาทิตย์ครับ วิธีเช็กง่าย ๆ แค่เปิดฝาและเติมน้ำเข้าไปให้ถึงขีดครับโดยเฉพาะกรณีขับในเมืองครับ

 

 

- น้ำกลั่นแบตเตอรี่ กรณีนี้จะเป็นเฉพาะรถที่ใช้แบตเตอรี่น้ำนะครับ แบตเตอรี่แห้งจะไม่ต้องเช็กแล้ว ก็ให้เพื่อน ๆ คอยตรวจสอบและเติมน้ำกลั่นลงไปให้ครบทุกรูเลย ขึ้นเหนือแผ่นแม่เหล็กในแบตเตอรี่ครับ โดยปกติ แบตเตอรี่จะมีอายุประมาณปีครึ่งถึงสองปีครับ ซึ่งอาการที่จะแสดงออกก็คือ ระบบไฟรถจะเริ่มรวน ๆ เสียงแตรเบา ต้องระวังครับ เพราะหากมีปัญหาอาจทำให้รถดับได้ และต้องรอคนมาเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือจัมป์แบตเตอรี่ให้ครับถึงจะใช้ได้ แบตเตอรี่เป็นส่วนที่ถึงรอบเปลี่ยนควรเปลี่ยนครับ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้อย่างชัดเจนว่าจะมีสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ครับ

 

- น้ำฉีดกระจก ก็ทั่ว ๆ ไปครับ ไว้สำหรับทำความสะอาดล้างกระจก เราจะบอกไม่สำคัญไม่ได้นะครับ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะมีสิ่งแปลกปลอมมาทำให้เราเสียทัศนวิสัยตอนไหนได้ครับ

 

ขอบคุณที่มา : รู้ใจ